1. โดเมนเนมคืออะไร และมีความเป็นมาอย่างไร?
โดเมนเนมคืออะไร
โดเมนเนม ( Domain name ) คือ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งในการเรียกชื่อ url แต่ละชื่อนั้น เบื้องหลังคือ หมายเลข IP เช่น 66.102.145.89 แต่ การเรียกเปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ ผ่านทางหมายเลข IP เป็นสิ่งที่จดจำได้ยาก จึงมีการเปลี่ยนให้เรียกตามชื่อได้ ทำให้การเรียกเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำได้สะดวก และจดจำได้ง่ายขึ้น เช่น www.hotmail.com โดเมนเนม ก็คือ hotmail.com , www.tuktukdomain.com โดเมนเนม ก็คือ tuktukdomain.com นั่นเอง
มีความเป็นมาอย่างไร
การระบุตำแหน่งของเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต จะใช้ชุดตัวเลขที่เรียกว่าเลข IP (InternetProtocol) ในการอ้างอิง แต่เนื่องจากการใช้ตัวเลข IP ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เป็นที่อยู่เว็บไซต์นั้น มีความยากลำบากในการจดจำ จึงได้มีระบบการแปลงเลข IP ให้เป็นชื่อที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษร คำ หรือ วลี ซึ่งเรียกว่า ชื่อโดเมน (Domain Name) เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ โดยหากทำการป้อนที่อยู่เว็บไซต์หรือชื่อโดเมนให้กับโปรแกรมจำพวกเบราว์เซอร์ คอมพิวเตอร์จะทำการแปลงชื่อโดเมนให้เป็นชุดตัวเลข IP เพื่อให้คอมพิวเตอร์ด้วยกันเองเข้าใจ และนำไปประมวลผลใช้งานต่อไป ซึ่งระบบที่ใช้แปลงค่าระหว่างชื่อโดเมนและเลข IP นี้เรียกว่า Domain Name System (DNS)ระบบการแปลงค่าระหว่างชื่อโดเมนและเลข IP (DNS) ปัจจุบัน มีข้อจำกัดตรงที่ถูกออกแบบให้รับรู้เฉพาะตัวอักษรละติน (ASCII character set) เลข 0 ถึง 9 และเครื่องหมายยติภังค์ (-) เท่านั้น ไม่สามารถที่จะรับรู้อักขระในภาษาไทย ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวนี้เอง ได้กลายมาเป็นจุดกำเนิดในการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีชื่อโดเมนภาษาไทยในปี 2542 โดยกลุ่มผู้ประดิษฐ์คิดค้นชาวไทย ที่เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถเรียกดูเว็บไซต์ผ่านทางชื่อโดเมนภาษาไทยเต็มรูปแบบ (ทั้งชื่อและสกุลโดเมนเป็นภาษาไทย) และเปิดโอกาสให้เจ้าของเว็บไซต์ที่ประสบปัญหากับการมีชื่อโดเมนภาษาอังกฤษที่จดจำยาก หรือใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลำบาก สามารถจดทะเบียนชื่อโดเมนภาษาไทยให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. จงยกตัวอย่างส่วนขยายท้ายสุดของโดเมนเนม (เช่น .com, .ac.th, .net) มาอย่างน้อย 10 ชนิด และบอกความหมายของส่วนขยายของโดเมนเนมเหล่าันั้น ว่าเป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องอะไร
1 .COM ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และมีบางครั้งนำไปใช้ทำเว็บไซต์(web site) ประเภทอื่นๆ ด้วย
2 .NET ใช้ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ค (network) ของคอมพิวเตอร์ หรือเว็บไซต์บริการอินเทอร์เน็ต แต่บางครั้งก็นำไปใช้ด้านอื่นด้วย
3 .ORG ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ บางครั้งก็มีการจดทะเบียนนำไปใช้กับเว็บไซต์ประเภทอื่นด้วย
4 .CO.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป
5 .OR.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ และชื่อโดเมนต้องเป็นชื่อขององกร หรือตัวย่อของชื่อองค์กรนั้นๆ ต้องใช้สำเนาเอกสารทางราชการเป็นหลักฐานการจดทะเบียน
6 .AC.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆ ชื่อของโดเมนที่จดทะเบียนต้องเป็นชื่อของสถานศึกษานั้นๆ หรือชื่อย่อของชื่อสถานศึกษา ใช้สำเนาเอกสารการขออนุญาตก่อตั้งสถานศึกษาเป็นหลักฐาน
7 .GO.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการของประเทศไทย โดยปกติจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่
8 .IN.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป ชื่อโดเมนจะใช้ชื่ออะไรก็ได้ ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบขับขี่เป็นหลักฐานการจดทะเบียน
9 .cc เป็น โดเมน ที่คาดว่าน่าจะมีความนิยมทัดเทียมกับ .com ในเวลาอันใกล้นี้เนื่องจาก .com แทบจะไม่มีชื่อดีๆ เหลืออยู่แล้ว การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้กับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไปได้
10 .biz สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไป เป็น โดเมน น้องใหม่ พึ่งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มธุรกิจที่เป็น ธุรกิจจริงๆ ซึ่งก็ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักค่อนข้างเร็ว
11 .info ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่ให้รายละเอียดเกียวกับข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลของประเทศต่างๆ เป็นต้น
12 .ws เป็นชนิดของชื่อเว็บไซต์หนึ่งที่พยามยามสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับ .cc การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้ได้กับทุกประเภทเว็บไซต์
13 .tv เป็นเว็บไซต์ของสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะสื่อทางด้านภาพและเสียง ปัจจุบันค่อนข้างได้รับความนิยมจากเว็บไซต์ประเภทสื่อพอสมควร
3. วิธีจดโดเมนเนม "ด้วยตัวเอง" ต้องทำอย่างไร?
ขั้นตอนการจดไม่ยุ่งยากอะไร ถ้าหากว่าเป็นโดเมนทั่วๆ ไป เช่น .com, .net, .org ก็ไปตามเว็บของบริษัทที่รับจดทั่วไปได้เลย เช่น Godaddy.com Networksolutions.com Register.com หรือ Yahoo Domains ก็มี http://smallbusiness.yahoo.com/domains/แค่กรอกชื่อที่อยู่ อีเมลติดต่อ และบัตรเครดิตก็จบส่วนเมืองไทยถ้าคุณต้องการจดโดเมนประเภท .co.th, .or.th., .ac.th. พวกนี้จะต้องจดผ่านบริษัทที่ได้รับสัมปทานโดยตรงจาก icann ( http://www.icann.org/ ) นั่นก็คือบริษัทที.เอช.นิค ( http://www.thnic.co.th/ ) ยกเว้นโดเมนเนมประเภท .in.th ใครก็จดได้ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับโดเมนถือว่าถูกมาก อาจจะแค่ไม่กี่ร้อยบาทต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าโดเมนถูกจดไปหรือยัง ถ้าถูกจดไปแล้ว แล้วเราอยากได้จริงๆ ราคาก็จะถูกโก่งให้สูงขึ้นไปตามแต่คนที่มาจดไปก่อนจะอยากขายให้เรา
4. หลักที่ใช้ในการตั้งชื่อ โดเมนเนม
1.ความยาวของชื่อโดเมนเนม ตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร
2.สามารถใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข หรือเครื่องหมายขีด (-) ได้
3.ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ใช้ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ได้
4.ห้ามใช้เครื่องหมายขีด (-) นำหน้าชื่อ โดเมนเนม
5.ห้ามเว้นวรรคในชื่อ โดเมนเนม
วิธีการตั้งชื่อ โดเมนเนม
สั้น : ง่ายต่อการพิมพ์หรือบอกต่อ บางองค์กรใช้แม้ไม่มีความหมาย แต่ทำให้ได้ความสั้น
มีความหมาย : เป็นการบ่งบอกถึงว่าทำอะไร จะง่ายต่อการสื่อสารว่าเว็บทำอะไร
ชื่อเดียวองค์กร : จะ สอดคล้องกับองค์กร มีทั้งผลดี ผลเสีย หากเว็บไซต์ทำมาดี ส่งผลต่อภาพพจน์องค์กร แต่ถ้าทำมาไม่ดีก็ทำให้องค์กรภาพไม่ดีด้วยเช่นเดียวกัน
เน้นตัวอักษรให้ Search ง่าย เช่น amazon.com เน้นตัวอักษรตัว A เพราะค้นหาก็จะอยู่เริ่มต้น
อ่านง่าย : เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและบอกต่อ
5. จงออกข้อสอบเกี่ยวกับเรื่อง "โดเมนเนม" มาอย่างน้อยคนละ 5 ข้อ พร้อมเฉลยคำตอบ (อธิบายด้วยนะครับ ตอนเฉลยอ่ะ ว่าทำไมถึงต้องตอบข้อนี้)
ข้อ1.ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เรียกว่าอะไร
ตอบ โดเมนเนม
เพราะ โดเมนเนม คือ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่างๆ
ข้อ2.เว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆมีส่วนขยายท้ายสุดของโดเมนเนมว่าอย่างไร
ตอบ .ac.th
เพราะ .ac.th ใช้ทำเว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆ
ข้อ3.ชื่อโดเมนเนมตั้งได้ไม่เกินกี่ตัวอักษร
ตอบ ตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร
ข้อ4.ห้ามใช้เครื่องหมายใดนำหน้าชื่อโดเมนเนม
ตอบ เครื่องหมายขีด (-)
ข้อ5.เราจะมีวิธีการตั้งชื่อโดเมนเนม อย่างไร
ตอบ วิธีการตั้งชื่อ โดเมนเนม
สั้น : ง่ายต่อการพิมพ์หรือบอกต่อ บางองค์กรใช้แม้ไม่มีความหมาย แต่ทำให้ได้ความสั้น
มีความหมาย : เป็นการบ่งบอกถึงว่าทำอะไร จะง่ายต่อการสื่อสารว่าเว็บทำอะไร
ชื่อเดียวองค์กร : จะ สอดคล้องกับองค์กร มีทั้งผลดี ผลเสีย หากเว็บไซต์ทำมาดี ส่งผลต่อภาพพจน์องค์กร แต่ถ้าทำมาไม่ดีก็ทำให้องค์กรภาพไม่ดีด้วยเช่นเดียวกัน เน้นตัวอักษรให้ Search ง่าย เช่น amazon.com เน้นตัวอักษรตัว A เพราะค้นหาก็จะอยู่เริ่มต้น
อ่านง่าย : เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและบอกต่อ
วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551
วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ชีวิตของฉันในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2561

ในชีวิตของคนเรานั้นต้องเจอกับความสุขและความทุกข์ควบคู่กันไป ก็เหมือนกับฉันในวันนี้ที่กำลังมีความสุขกับสิ่งที่อยู่รอบข้างฉัน ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงความเป็นมาของความสุขก่อนนะค่ะ
เริ่มตั้งแต่เกิดมา (อุ้ย นานไปรึเปล่าเนี่ย)รู้สึกว่าจะนานไปหน่อยนะพูดถึงปัจจุบันนี้เลยแล้วกัน
คือว่าตอนนี้ฉันก็ได้ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯแล้ว(บ้านเดิมอยู่พะเยา) เป็น เภสัชกร อยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ฉันมีความสุขมากที่ได้ทำงานในสิ่งที่ฉันรัก ถึงแม้ว่าทุกวันจะต้องทำงานหนักก็ตาม (ที่จริงเงินเดือนเยอะต่างหาก ตั้ง300,000บาท)ความสุขอย่างแรกจบไปแล้ว
ความสุขอย่างที่ สอง คือ ฉันสามารถสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่อันเป็นที่รักของฉันสำเร็จ เพื่อตอบแทนพระคุณของท่าน ที่ท่านเลี้ยงดูฉันมาจนเป็นเภสัชกรที่น่ารักที่สุดในโลก
ความสุขอย่างที่ สาม ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเทวดาถึงสาปให้ฉันมีหน้าตาที่น่ารักอะไรขนาดนี้ เพราะว่าที่โรงพยาบาล คุณหมอ ทุกคนพากันมาแจกขนมจีบฉันทุกวัน ฉันล่ะเบื่อเลย...
ความสุขสุดท้าย ก็คือ ฉันได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ของฉัน ได้ทำงานที่ฉันรัก และอยู่กับคนที่รักฉันและฉันก็รักเขา อ๋อ ลืมบอกไป ว่าแฟน ฉันเขาก็คือ ลูกชายของคนที่รวยที่สุดในประเทศไทย
และในวันพรุ่งนี้ครอบครัวเขาก็จะพาครอบครัวฉันไปทานอาหารเช้าที่ประเทศ เกาหลี จากนั้นก็ทานอาหารเย็นที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วย
ดิฉันอยากจะบอกทุกคนที่กำลังอ่านอยู่ว่า ก่อนที่ฉันจะมีความสุขได้ขนาดนี้ ฉันต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ที่พัดเข้าใส่ชีวิตของฉัน แต่ฉันก็ไม่ยอมแพ้ ที่ฉันมีวันนี้ได้ก็เพราะ คุณพ่อคุณแม่ที่คอยให้กำลังใจ และที่สำคัญเราต้องอดทน....
ลมหายใจมีไว้ให้ความหวัง
สร้างพลังดวงจิตอย่าคิดถอย
อย่าอยู่อย่างชีวิตที่เลื่อนลอย
โหยละห้อยเสียกาลและเวลา
อุปสรรคเข้าเผชิญจงเดินสู้
ยอมรับรู้ด้วยใจที่อาจหาญ
ตรึงและตรองแก้ไขอย่านิ่งนาน
รีบประสานเข้มแข็งด้วยแรงใจ
วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
เคล็ดไม่ลับ ..ในการดูแลเส้นผม
วันนี้ก็มีทิปดีๆสำหรับการดูแลเส้นผมมาฝากนะคะ
1. ควรเลือกแชมพูที่มี PH balance
2.ไม่ควรหวีผมเวลาผมเปียกเพราะจะทำให้เส้นผมขาดง่าย
3.ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน เช้น ไดร์เป่าผม
4.ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่บำรุงเส้นผมเช่น oil
1. ควรเลือกแชมพูที่มี PH balance
2.ไม่ควรหวีผมเวลาผมเปียกเพราะจะทำให้เส้นผมขาดง่าย
3.ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน เช้น ไดร์เป่าผม
4.ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่บำรุงเส้นผมเช่น oil
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)