วันพุธที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551

1. โดเมนเนมคืออะไร และมีความเป็นมาอย่างไร?

โดเมนเนมคืออะไร

ดเมนเนม ( Domain name ) คือ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งในการเรียกชื่อ url แต่ละชื่อนั้น เบื้องหลังคือ หมายเลข IP เช่น 66.102.145.89 แต่ การเรียกเปิดเว็บไซต์ต่าง ๆ ผ่านทางหมายเลข IP เป็นสิ่งที่จดจำได้ยาก จึงมีการเปลี่ยนให้เรียกตามชื่อได้ ทำให้การเรียกเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ทำได้สะดวก และจดจำได้ง่ายขึ้น เช่น www.hotmail.com โดเมนเนม ก็คือ hotmail.com , www.tuktukdomain.com โดเมนเนม ก็คือ tuktukdomain.com นั่นเอง



มีความเป็นมาอย่างไร

การระบุตำแหน่งของเครื่องคอมพิวเตอร์ในอินเทอร์เน็ต จะใช้ชุดตัวเลขที่เรียกว่าเลข IP (InternetProtocol) ในการอ้างอิง แต่เนื่องจากการใช้ตัวเลข IP ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้เป็นที่อยู่เว็บไซต์นั้น มีความยากลำบากในการจดจำ จึงได้มีระบบการแปลงเลข IP ให้เป็นชื่อที่ประกอบขึ้นจากตัวอักษร คำ หรือ วลี ซึ่งเรียกว่า ชื่อโดเมน (Domain Name) เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ โดยหากทำการป้อนที่อยู่เว็บไซต์หรือชื่อโดเมนให้กับโปรแกรมจำพวกเบราว์เซอร์ คอมพิวเตอร์จะทำการแปลงชื่อโดเมนให้เป็นชุดตัวเลข IP เพื่อให้คอมพิวเตอร์ด้วยกันเองเข้าใจ และนำไปประมวลผลใช้งานต่อไป ซึ่งระบบที่ใช้แปลงค่าระหว่างชื่อโดเมนและเลข IP นี้เรียกว่า Domain Name System (DNS)ระบบการแปลงค่าระหว่างชื่อโดเมนและเลข IP (DNS) ปัจจุบัน มีข้อจำกัดตรงที่ถูกออกแบบให้รับรู้เฉพาะตัวอักษรละติน (ASCII character set) เลข 0 ถึง 9 และเครื่องหมายยติภังค์ (-) เท่านั้น ไม่สามารถที่จะรับรู้อักขระในภาษาไทย ด้วยข้อจำกัดดังกล่าวนี้เอง ได้กลายมาเป็นจุดกำเนิดในการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีชื่อโดเมนภาษาไทยในปี 2542 โดยกลุ่มผู้ประดิษฐ์คิดค้นชาวไทย ที่เอื้ออำนวยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถเรียกดูเว็บไซต์ผ่านทางชื่อโดเมนภาษาไทยเต็มรูปแบบ (ทั้งชื่อและสกุลโดเมนเป็นภาษาไทย) และเปิดโอกาสให้เจ้าของเว็บไซต์ที่ประสบปัญหากับการมีชื่อโดเมนภาษาอังกฤษที่จดจำยาก หรือใช้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลำบาก สามารถจดทะเบียนชื่อโดเมนภาษาไทยให้กับเว็บไซต์ของตัวเอง เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



2. จงยกตัวอย่างส่วนขยายท้ายสุดของโดเมนเนม (เช่น .com, .ac.th, .net) มาอย่างน้อย 10 ชนิด และบอกความหมายของส่วนขยายของโดเมนเนมเหล่าันั้น ว่าเป็นเว็บไซต์ที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องอะไร


1 .COM ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป รวมทั้งเว็บไซต์ส่วนตัว และมีบางครั้งนำไปใช้ทำเว็บไซต์(web site) ประเภทอื่นๆ ด้วย
2 .NET ใช้ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ค (network) ของคอมพิวเตอร์ หรือเว็บไซต์บริการอินเทอร์เน็ต แต่บางครั้งก็นำไปใช้ด้านอื่นด้วย
3 .ORG ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ บางครั้งก็มีการจดทะเบียนนำไปใช้กับเว็บไซต์ประเภทอื่นด้วย

4 .CO.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของบริษัท ห้างร้านโดยทั่วไป
5 .OR.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการ และชื่อโดเมนต้องเป็นชื่อขององกร หรือตัวย่อของชื่อองค์กรนั้นๆ ต้องใช้สำเนาเอกสารทางราชการเป็นหลักฐานการจดทะเบียน
6 .AC.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆ ชื่อของโดเมนที่จดทะเบียนต้องเป็นชื่อของสถานศึกษานั้นๆ หรือชื่อย่อของชื่อสถานศึกษา ใช้สำเนาเอกสารการขออนุญาตก่อตั้งสถานศึกษาเป็นหลักฐาน
7 .GO.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของส่วนราชการของประเทศไทย โดยปกติจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่
8 .IN.TH ใช้ทำเว็บไซต์ของบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป ชื่อโดเมนจะใช้ชื่ออะไรก็ได้ ใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบขับขี่เป็นหลักฐานการจดทะเบียน


9 .cc เป็น โดเมน ที่คาดว่าน่าจะมีความนิยมทัดเทียมกับ .com ในเวลาอันใกล้นี้เนื่องจาก .com แทบจะไม่มีชื่อดีๆ เหลืออยู่แล้ว การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้กับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไปได้
10 .biz สำหรับเว็บไซต์ธุรกิจโดยทั่วไป เป็น
โดเมน น้องใหม่ พึ่งเกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มธุรกิจที่เป็น ธุรกิจจริงๆ ซึ่งก็ได้รับความสนใจและเป็นที่รู้จักค่อนข้างเร็ว
11 .info ใช้สำหรับเว็บไซต์ที่ให้รายละเอียดเกียวกับข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลของประเทศต่างๆ เป็นต้น
12 .ws เป็นชนิดของชื่อเว็บไซต์หนึ่งที่พยามยามสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันกับ .cc การนำไปใช้งานสามารถนำไปใช้ได้กับทุกประเภทเว็บไซต์
13 .tv เป็นเว็บไซต์ของสื่อโฆษณาต่างๆ โดยเฉพาะสื่อทางด้านภาพและเสียง ปัจจุบันค่อนข้างได้รับความนิยมจากเว็บไซต์ประเภทสื่อพอสมควร


3. วิธีจดโดเมนเนม "ด้วยตัวเอง" ต้องทำอย่างไร?

ขั้นตอนการจดไม่ยุ่งยากอะไร ถ้าหากว่าเป็นโดเมนทั่วๆ ไป เช่น .com, .net, .org ก็ไปตามเว็บของบริษัทที่รับจดทั่วไปได้เลย เช่น Godaddy.com Networksolutions.com Register.com หรือ Yahoo Domains ก็มี http://smallbusiness.yahoo.com/domains/แค่กรอกชื่อที่อยู่ อีเมลติดต่อ และบัตรเครดิตก็จบส่วนเมืองไทยถ้าคุณต้องการจดโดเมนประเภท .co.th, .or.th., .ac.th. พวกนี้จะต้องจดผ่านบริษัทที่ได้รับสัมปทานโดยตรงจาก icann ( http://www.icann.org/ ) นั่นก็คือบริษัทที.เอช.นิค ( http://www.thnic.co.th/ ) ยกเว้นโดเมนเนมประเภท .in.th ใครก็จดได้ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับโดเมนถือว่าถูกมาก อาจจะแค่ไม่กี่ร้อยบาทต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าโดเมนถูกจดไปหรือยัง ถ้าถูกจดไปแล้ว แล้วเราอยากได้จริงๆ ราคาก็จะถูกโก่งให้สูงขึ้นไปตามแต่คนที่มาจดไปก่อนจะอยากขายให้เรา



4. หลักที่ใช้ในการตั้งชื่อ โดเมนเนม

1.ความยาวของชื่อโดเมนเนม ตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร
2.สามารถใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข หรือเครื่องหมายขีด (-) ได้
3.ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ใช้ตัวเล็กหรือตัวใหญ่ก็ได้
4.ห้ามใช้เครื่องหมายขีด (-) นำหน้าชื่อ โดเมนเนม
5.ห้ามเว้นวรรคในชื่อ โดเมนเนม


วิธีการตั้งชื่อ โดเมนเนม
สั้น : ง่ายต่อการพิมพ์หรือบอกต่อ บางองค์กรใช้แม้ไม่มีความหมาย แต่ทำให้ได้ความสั้น
มีความหมาย : เป็นการบ่งบอกถึงว่าทำอะไร จะง่ายต่อการสื่อสารว่าเว็บทำอะไร
ชื่อเดียวองค์กร : จะ สอดคล้องกับองค์กร มีทั้งผลดี ผลเสีย หากเว็บไซต์ทำมาดี ส่งผลต่อภาพพจน์องค์กร แต่ถ้าทำมาไม่ดีก็ทำให้องค์กรภาพไม่ดีด้วยเช่นเดียวกัน
เน้นตัวอักษรให้ Search ง่าย เช่น amazon.com เน้นตัวอักษรตัว A เพราะค้นหาก็จะอยู่เริ่มต้น
อ่านง่าย : เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและบอกต่อ




5. จงออกข้อสอบเกี่ยวกับเรื่อง "โดเมนเนม" มาอย่างน้อยคนละ 5 ข้อ พร้อมเฉลยคำตอบ (อธิบายด้วยนะครับ ตอนเฉลยอ่ะ ว่าทำไมถึงต้องตอบข้อนี้)

ข้อ1.ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เรียกว่าอะไร
ตอบ โดเมนเนม
เพราะ โดเมนเนม คือ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเปิดไปยังเว็บไซต์ต่างๆ

ข้อ2.เว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆมีส่วนขยายท้ายสุดของโดเมนเนมว่าอย่างไร
ตอบ .ac.th
เพราะ .ac.th ใช้ทำเว็บไซต์ของสถานศึกษาต่างๆ

ข้อ3.ชื่อโดเมนเนมตั้งได้ไม่เกินกี่ตัวอักษร
ตอบ ตั้งได้ไม่เกิน 63 ตัวอักษร

ข้อ4.ห้ามใช้เครื่องหมายใดนำหน้าชื่อโดเมนเนม
ตอบ เครื่องหมายขีด (-)

ข้อ5.เราจะมีวิธีการตั้งชื่อโดเมนเนม อย่างไร
ตอบ วิธีการตั้งชื่อ โดเมนเนม
สั้น : ง่ายต่อการพิมพ์หรือบอกต่อ บางองค์กรใช้แม้ไม่มีความหมาย แต่ทำให้ได้ความสั้น
มีความหมาย : เป็นการบ่งบอกถึงว่าทำอะไร จะง่ายต่อการสื่อสารว่าเว็บทำอะไร
ชื่อเดียวองค์กร : จะ สอดคล้องกับองค์กร มีทั้งผลดี ผลเสีย หากเว็บไซต์ทำมาดี ส่งผลต่อภาพพจน์องค์กร แต่ถ้าทำมาไม่ดีก็ทำให้องค์กรภาพไม่ดีด้วยเช่นเดียวกัน เน้นตัวอักษรให้ Search ง่าย เช่น amazon.com เน้นตัวอักษรตัว A เพราะค้นหาก็จะอยู่เริ่มต้น
อ่านง่าย : เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและบอกต่อ